มโนยนต์ชัยกับ ERP จัดการกว่า 16,000 SKU สู่ Insight ธุรกิจ Spare Part

มโนยนต์ชัยผู้เล่นแนวหน้าตลาด Spare Part ใช้ Microsoft Dynamics 365 Finance & Operations ร่วมกับ Power BI วางระบบข้อมูล จัดการสต็อกอย่างแม่นยำ เชื่อมโยงข้อมูลแบบเรียลไทม์
มโนยนต์ชัยกับ ERP จัดการกว่า 16,000 SKU สู่ Insight ธุรกิจ Spare Part

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร (Executive Summary)

วัตถุประสงค์หลัก: บริษัท มโนยนต์ชัย จำกัด ต้องการวางระบบ ERP ที่ทุกแผนกสามารถทำงานบนข้อมูลเดียวกัน ลดความซ้ำซ้อน พร้อมรองรับการเติบโตของธุรกิจอะไหล่ยานยนต์ที่มี SKU มากกว่า 16,000 รายการ

ความท้าทาย: ระบบเดิมแยกส่วน ข้อมูลไม่เชื่อมโยง ทำให้วางแผนล่วงหน้าไม่ได้ ต้องรวมข้อมูลด้วยมือ ขาดมุมมองภาพรวมที่แม่นยำ และไม่สามารถขยายระบบต่อได้ตามที่ธุรกิจเติบโต

ทางเลือกเทคโนโลยี: องค์กรเลือกใช้ Microsoft Dynamics 365 Finance & Operations เป็นระบบ ERP หลัก เชื่อมฝ่ายขาย คลังสินค้า บัญชี และการจัดส่งแบบครบวงจร พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลด้วย Power BI

พาร์ทเนอร์: ร่วมงานกับ Quick Transformation ที่เข้าใจโจทย์ของธุรกิจอะไหล่โดยตรง ออกแบบระบบให้รองรับการเติบโตขององค์กรในระยะยาว ไม่ใช่แค่ติดตั้งระบบ แต่เป็นพาร์ทเนอร์ที่เดินไปด้วยกัน

ผลลัพธ์: หลัง Go-live ทุกแผนกทำงานบนข้อมูลเดียวกัน ลดงานซ้ำ ลดข้อผิดพลาด สามารถติดตามสถานะได้แบบ Real-time ใช้ Power BI วิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจได้ทันทีนที สร้างรากฐานที่พร้อมขยายแบรนด์มโนยนต์ชัยได้อย่างมั่นใจ

บทความนี้ถอดบทเรียนจากการปรับระบบ ERP ของมโนยนต์ชัย ผ่านมุมมองของ คุณธนัตถ์ รัตนโกสุมภ์, IT Management ผู้บริหารโครงการที่ยกระดับโครงสร้างระบบ เพื่อให้ข้อมูลกลายเป็นฐานสำคัญของการตัดสินใจและการเติบโต

Quick Suggest

หากสนใจเรียนรู้เพิ่มเติม ขอแนะนำบทความ

มโนยนต์ชัย: จากรากฐานสู่เป้าหมายใหม่

มโนยนต์ชัยเริ่มต้นจากร้านอะไหล่รถยนต์ย่านวรจักรเมื่อปี 2509 ก่อนจะเติบโตเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการจัดจำหน่ายอะไหล่ยานยนต์ของประเทศ ด้วยการขยายสินค้าและช่องทางขายอย่างต่อเนื่อง

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็วจากแรงสนับสนุนของลูกค้าและพาร์ทเนอร์ พร้อมจำนวนสินค้าที่เพิ่มขึ้นกว่า 16,000 รายการ ซึ่งเกินขีดจำกัดของระบบเดิม และเริ่มส่งผลต่อการทำงานในหลายส่วน

แม้จะมีทีมงานที่เข้มแข็งและกระบวนการที่เป็นระบบ แต่มโนยนต์ชัยมองว่า “เทคโนโลยี” คือปัจจัยสำคัญที่จะยกระดับประสิทธิภาพ หากยังคงทำงานแบบแยกส่วนหรือจัดการเฉพาะหน้า ข้อมูลจะไม่สามารถใช้วิเคราะห์และวางแผนเชิงกลยุทธ์ได้เต็มที่

มโนยนต์ชัยกับ ERP จัดการกว่า 16,000 SKU สู่ Insight ธุรกิจ Spare Part
ปัจจุบัน มโนยนต์ชัยดำเนินธุรกิจผ่านหลายช่องทาง เช่น
  1. การขายผ่านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

  2. การขายหน้าร้านและภาคสนาม

  3. การบริหารคลังสินค้าและจัดส่งด้วยทีมภายใน

เมื่อจำนวน SKU เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ระบบเดิมไม่สามารถรองรับได้ทันเวลา นั่นจึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้มโนยนต์ชัยตัดสินใจปรับโครงสร้างระบบใหม่ทั้งหมด

มโนยนต์ชัยกับ ERP จัดการกว่า 16,000 SKU สู่ Insight ธุรกิจ Spare Part

ความท้าทาย: ระบบแยกส่วน ข้อมูลไม่พร้อมใช้

แม้จะมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมากว่า 50 ปี แต่มโนยนต์ชัยต้องเผชิญกับข้อจำกัดที่ซับซ้อนขึ้นเมื่อธุรกิจเติบโตเร็วและมีสินค้าหลายหมื่นรายการ การทำงานแบบแยกส่วนระหว่างแผนก เช่น การขาย คลังสินค้า การเงิน และบัญชี ทำให้ข้อมูลไม่เชื่อมโยงกันและไม่สามารถตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์

  • ระบบเดิมมีหลายฐานข้อมูล การอัปเดตข้อมูลหนึ่งจุดไม่ได้สะท้อนถึงทั้งองค์กร ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการวิเคราะห์ยอดขายหรือวางแผนสต๊อก

  • สินค้ากว่า 16,000 SKU ต้องอาศัยการควบคุมคลังสินค้าอย่างแม่นยำ แต่ระบบที่ใช้ไม่สามารถรองรับการมองเห็นแบบรวมศูนย์

  • การขายผ่านหลายช่องทาง ทั้งหน้าร้าน ตัวแทนจำหน่าย และทีมภาคสนาม ทำให้การรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ยอดขายทำได้ยากขึ้น

  • ทีมงานต้องดึงข้อมูลเองแบบแมนนวล เช่น ต้องรวมข้อมูลยอดขายรายวันจากหลายแหล่งก่อนสรุปยอดให้ผู้บริหาร

ด้วยความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้น มโนยนต์ชัยต้องการมากกว่าระบบบัญชีหรือระบบขายแยกส่วน แต่ต้องการ “ระบบศูนย์กลาง” ที่เชื่อมโยงทุกกระบวนการ ตั้งแต่การวางแผนสินค้าคงคลัง การรับสินค้า การขาย ไปจนถึงการวิเคราะห์ผลประกอบการ

มโนยนต์ชัยกับ ERP จัดการกว่า 16,000 SKU สู่ Insight ธุรกิจ Spare Part

ทำไมต้องเลือก Dynamics 365 F&O

มโนยนต์ชัยต้องการระบบ ERP ที่สามารถ “เชื่อมต่อทุกฝ่ายให้เห็นข้อมูลแบบเดียวกัน และช่วยให้ตัดสินใจบนข้อมูลจริง” โดยระบบเดิมที่ใช้อยู่มีข้อจำกัดหลายด้าน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลทำได้ล่าช้า ข้อมูลสินค้ากระจัดกระจาย และการจัดการสต็อกที่ไม่สอดคล้องกันระหว่างทีมขายและคลังสินค้า

เหตุผลที่เลือก Dynamics 365 Finance & Operations (D365 F&O) ได้แก่:
  • รวมข้อมูลทุกฝ่ายไว้ในระบบเดียว: ทำให้ทีมขายสามารถดูข้อมูลสินค้าคงคลังจริงได้แบบเรียลไทม์ ขณะที่ฝ่ายจัดซื้อสามารถวางแผนการสั่งของจากยอดขายและพฤติกรรมของลูกค้า
  • รองรับการเติบโตของ SKU กว่า 16,000 รายการ: ด้วยโครงสร้างสินค้าที่ซับซ้อน D365 F&O ช่วยให้สามารถจัดการหมวดหมู่ รายการเทียบเคียง และราคาขายได้อย่างยืดหยุ่น
  • เชื่อมโยงระบบบัญชีและ Supply Chain: การปิดงบ การประเมินยอดขายต่อชิ้นส่วน และการดูข้อมูลจากหลายมิติเกิดขึ้นได้แบบอัตโนมัติและโปร่งใส
  • พร้อมต่อยอดระบบขายออนไลน์ในอนาคต: ระบบเปิดให้ต่อเชื่อมกับ e‑commerce, ระบบ CRM หรือการรายงานผ่าน Power BI ได้ทันที

“เราไม่ได้มอง ERP แค่ระบบบัญชี แต่คือแกนกลางของข้อมูลธุรกิจทั้งหมด”
จากการสัมภาษณ์คุณธนัตถ์ รัตนโกสุมภ์ (IT Management)

แผนการ Go-Live และผลลัพธ์หลังใช้งานจริง

มโนยนต์ชัยใช้เวลาในการวางแผนและปรับโครงสร้างข้อมูลใหม่ร่วมกับทีม Quick Transformation โดยมีการออกแบบข้อมูลแม่ (Master Data), ผังบัญชี, โครงสร้างสินค้า และระบบต้นทุนใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ระบบรองรับการวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ได้ในระยะยาว

Timeline คร่าว ๆ:
  • ช่วงต้นโปรเจกต์: Kick-off และออกแบบกระบวนการแบบ End-to-End

  • กลางโปรเจกต์: Clean-up ข้อมูลสินค้า พร้อม Mapping โครงสร้างหมวดสินค้าและรายงานใหม่

  • ก่อน Go-live: Test ระบบจริงทุกฝ่าย, ฝึกอบรมทีมงาน, และเชื่อมข้อมูลกับระบบรายงาน

ผลลัพธ์หลังใช้งานจริง:
  • ทีมขายดูข้อมูลสต็อกและเทียบรุ่นได้ในระบบเดียว ลดเวลาถาม–ตอบข้ามแผนก

  • ฝ่ายจัดซื้อวางแผนสั่งสินค้าได้แม่นยำขึ้น ด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าและยอดขายจริง

  • ฝ่ายบัญชีลดภาระในการรวมข้อมูล ทำให้ปิดงบและวิเคราะห์ข้อมูลได้เร็วขึ้น

  • ผู้บริหารเห็นภาพรวม Supply Chain ตั้งแต่คำสั่งซื้อ → คลังสินค้า → การขาย บน Dashboard เดียว 

ระบบ ERP ใหม่กลายเป็น “Data Backbone” ที่ช่วยให้มโนยนต์ชัยก้าวไปอีกขั้นในฐานะผู้นำธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจริง

มโนยนต์ชัยกับ ERP จัดการกว่า 16,000 SKU สู่ Insight ธุรกิจ Spare Part

แผนการ Go-Live และผลลัพธ์หลังใช้งานจริง

กรณีของมโนยนต์ชัย มีบทเรียนและแนวทางที่สามารถนำไปปรับใช้กับองค์กรอื่นได้ทันที ดังนี้:

Checklist ก่อนเริ่มโครงการ
  • ธุรกิจต้องการยกระดับเรื่องใด: ข้อมูล, ความเร็ว, การเชื่อมต่อ, หรือการวิเคราะห์?

  • ปริมาณ SKU, ช่องทางขาย และกระบวนการในองค์กรมีแนวโน้มเติบโตเพียงใด?

  • ระบบเดิมมีข้อจำกัดเรื่องข้อมูลหรือกระบวนการใดบ้างที่กระทบกับการตัดสินใจ?

  • โครงการ ERP ต้องครอบคลุมกระบวนการใดบ้าง และวัดผลสำเร็จอย่างไร?

5 คำถามสำคัญในการเลือกเทคโนโลยี ERP
  • ระบบสามารถจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ และซับซ้อนแบบเรียลไทม์ได้หรือไม่?

  • รองรับการขยายตัวของ SKU และช่องทางขายที่หลากหลายได้เพียงใด?

  • ผู้บริหารสามารถเห็นข้อมูลรวมแบบ One View ได้หรือไม่?

  • มีเครื่องมือสำหรับวิเคราะห์, คาดการณ์ และควบคุมแผนงานได้จริงหรือไม่?

  • ระบบสามารถเชื่อมต่อกับ Power Platform, BI, หรือระบบอนาคตได้อย่างยืดหยุ่นหรือไม่?

หนึ่งในความสำเร็จที่ต่อยอดได้

โครงการนี้เป็นหนึ่งใน Success Story ของ Quick Transformation พาร์ทเนอร์ที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบและติดตั้งระบบ ERP ให้เหมาะกับบริบทของธุรกิจอะไหล่โดยเฉพาะ ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ใช่แค่ระบบใหม่ แต่คือรากฐานขององค์กรที่พร้อมเติบโตต่อเนื่องในยุคดิจิทัล

ฉันยังลังเล...
ปรึกษาทีม Quick Transformation ตอบโจทย์ตรงใจคุณ

พร้อมหรือยังที่จะก้าวสู่ระบบที่พร้อมเติบโตไปกับธุรกิจของคุณ?

หากองค์กรของคุณกำลังมองหาวิธีเปลี่ยนระบบ ERP อย่างมั่นใจ Quick Transformation พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ที่เข้าใจทั้งเทคโนโลยีและธุรกิจไทย

และในโอกาสนี้ ขอขอบคุณ คุณธนัตถ์ รัตนโกสุมภ์, IT Management บริษัท มโนยนต์ชัย จำกัด และ คุณพิมพ์สิรี รัตนสุนทร, ผู้อำนวยการโซลูชันพันธมิตรประจำภูมิภาคอาเซียน บริษัท ไมโครซอฟต์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้เกียรติมาร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนมุมมองในการขับเคลื่อนองค์กรไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างใกล้ชิด

Table of Content