Module ERP มีอะไรบ้าง? เลือกโมดูลให้เหมาะกับธุรกิจต้องดูอะไรบ้าง

ERP Module คืออะไร? ทำงานอย่างไร?

Module ERP คือส่วนประกอบของระบบ ERP ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้านต่าง ๆ ขององค์กรอย่างเป็นระบบ เช่น การเงิน การสต๊อก การขาย หรือการผลิต ทำให้ข้อมูลเชื่อมโยงข้ามแผนกแบบ Real-time โดยไม่ต้องป้อนข้อมูลซ้ำ

ประโยชน์หลัก:

• Single source of truth สำหรับทั้งองค์กร
• ลดข้อผิดพลาดจากการป้อนข้อมูล Manual ซ้ำซ้อน
• สะดวกต่อ Audit trail

โดยระบบ ERP มักประกอบด้วยโมดูลหลักที่แบ่งตามประเภทงานในองค์กร แต่ละโมดูลเชื่อมโยงข้อมูลเข้าด้วยกัน ทำให้เห็นภาพรวมการทำงานแบบครบวงจร ด้านล่างคือ 11 โมดูลหลักที่พบได้บ่อย

โมดูลพื้นฐาน (Core Modules)

โมดูลการเงินและบัญชี (Finance & Accounting)

โมดูล Finance & Accounting เป็นแกนหลักที่ใช้บริหารข้อมูลทางการเงินแบบรวมศูนย์ ช่วยบันทึก ตรวจสอบ และสรุปธุรกรรมจากทุกฝ่ายในองค์กรบนฐานข้อมูลเดียว ทำให้รายงานทางการเงินมีความถูกต้องและตรวจสอบย้อนหลังได้ง่าย

ระบบรองรับการบันทึกบัญชีคู่ (Double-entry), การปิดงวดบัญชี (Period Closing), การกระทบยอด (Reconciliation) และมาตรฐานบัญชีทั้ง TFRS และ IFRS เหมาะกับองค์กรที่ต้องการควบคุมตัวเลขอย่างเป็นระบบ

โมดูลการจัดการคลังสินค้า (Inventory Management)

โมดูล Inventory Management ใช้ติดตามปริมาณสินค้า วัตถุดิบ และสินค้าระหว่างผลิตแบบเรียลไทม์ ลดปัญหาสต๊อกขาด ลดการเก็บเกินความจำเป็น และควบคุมการเคลื่อนไหวของสินค้าให้ตรงกับความเป็นจริง

ข้อมูลจะเชื่อมกับ Purchasing, Sales และ Production ทำให้การรับเข้า เบิกจ่าย และโอนย้ายถูกบันทึกครบทุกขั้นตอน

โมดูลการจัดซื้อ (Procurement / Purchasing)

โมดูล Procurement ใช้บริหารงานจัดซื้อ ตั้งแต่คำขอซื้อ (PR), ใบสั่งซื้อ (PO), การคัดเลือกผู้ขาย ไปจนถึงการตรวจรับสินค้าและใบแจ้งหนี้

โมดูลด้านปฏิบัติการ (Operations)

โมดูลห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Management – SCM)

โมดูล SCM ใช้วางแผนและบริหารการไหลของสินค้า ตั้งแต่จัดซื้อ การคาดการณ์ความต้องการ (Demand Planning), การวางแผนวัตถุดิบ (MRP), การผลิต และการกระจายสินค้า

ช่วยให้เห็นภาพรวมทั้งต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทำให้การวางแผนสต๊อกสอดคล้องกับ Demand ที่แท้จริง ลด Loss Cost ที่ไม่จำเป็น

โมดูลงานผลิตและควบคุมการผลิต (Manufacturing / Production Control)

โมดูล Production Control ใช้ดูแลขั้นตอนการผลิตทั้งหมด เช่น สูตรการผลิต (BOM), Routing, การวางแผนกำลังการผลิต (Capacity Planning), งานระหว่างผลิต (WIP) และต้นทุนการผลิต

ข้อมูลการใช้วัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูปจะอัปเดตกลับไปที่ Inventory ทันที ทำให้การวางแผนผลิตแม่นยำขึ้นและควบคุมต้นทุนตามงานจริงได้

โมดูลงานประกอบพื้นฐาน (Assembly / Basic Manufacturing)

โมดูล Assembly รองรับการประกอบสินค้าแบบไม่ซับซ้อน เหมาะกับธุรกิจที่มี BOM เบื้องต้น เช่น งานประกอบสินค้าอุปโภคหรืออุปกรณ์ทั่วไป ระบบช่วยควบคุมต้นทุนและติดตามสถานะการประกอบแต่ละงานได้ง่ายขึ้น

โมดูลบริหารคลัง (Warehouse Management – WMS)

โมดูล WMS รองรับการรับสินค้า Put-away, Picking, Packing และการตรวจนับสต๊อก รวมถึงการกำหนดตำแหน่งจัดเก็บสินค้า (Bin/Location)

เหมาะกับคลังสินค้าที่มีการเคลื่อนไหวสูง ต้องการความละเอียดระดับ SKU, Batch/Lot หรือ Serial และต้องการเชื่อมกับอุปกรณ์สแกนหรือ Mobile Device

โมดูลบริหารสินทรัพย์และงานซ่อมบำรุง (Asset Management)

โมดูล Asset Management ใช้ติดตามเครื่องจักร อุปกรณ์ และทรัพย์สินขององค์กร วางแผนบำรุงรักษาตามรอบ (Preventive Maintenance) และบันทึกงานซ่อมจริง (Corrective Maintenance) ช่วยลด Downtime และยืดอายุการใช้งานของสินทรัพย์ได้

โมดูลด้านหน้าบ้าน (Front Office)

โมดูลงานบริการหลังการขาย (Service Management)

โมดูล Service Management ใช้ดูแลงานบริการ เช่น Service Order, การซ่อม การติดตามเคส และการจัดการสัญญาบริการ

โมดูลงานขายและจัดการออเดอร์ (Sales & Order Management)

โมดูล Sales ใช้จัดการตั้งแต่ใบเสนอราคา (Quotation), คำสั่งขาย (Sales Order), การจองสินค้า การจัดส่ง ไปจนถึงการออกใบแจ้งหนี้

โมดูลเสริมประสิทธิภาพ (Advanced Modules)

โมดูลบริหารโครงการ (Project Management)

โมดูล Project Management ใช้กำหนดแผนงาน จัดสรรทรัพยากร ติดตามต้นทุน และประเมินความคืบหน้า เหมาะกับธุรกิจที่ทำงานตามโปรเจกต์ เช่น Construction, Consulting, and Design Services

ตารางสรุปโมดูล ERP

Dynamics 365: ตัวอย่าง ERP ที่รองรับโมดูลครบวงจร

หลังจากที่เราเห็นภาพรวมของโมดูล ERP ต่าง ๆ แล้ว เรามาดูตัวอย่างระบบ ERP ที่นำโมดูลเหล่านี้มาใช้งานจริงกัน

Dynamics 365 คือชุดแอปพลิเคชัน ERP และ CRM บนคลาวด์จาก Microsoft ที่รวมโมดูลสำคัญต่าง ๆ ไว้ในระบบเดียว ช่วยให้ข้อมูลของทั้งองค์กรเชื่อมโยงกันแบบ Real-time และปรับขยายได้ตามความต้องการ

โซลูชันหลักของ Dynamics 365 ที่รองรับโมดูล ERP

Finance & Operations เหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่ รองรับโมดูล:

• Finance & Accounting
• Supply Chain Management (Sales, Purchase, Inventory)
• Manufacturing/Production Control
• Warehouse Management (WMS)
• Asset Management
• Project & Service Management

Business Central – ตอบโจทย์ธุรกิจ SME ครอบคลุมโมดูล:

• Finance & Accounting
• Supply Chain Management (Sales, Purchase, Inventory)
• Warehouse Management (WMS)
• Basic Manufacturing/Assembly
• Service Management
• Project Management

หากต้องการทราบรายละเอียดแต่ละโซลูชันและฟีเจอร์เฉพาะของ Dynamics 365 เพิ่มเติม สามารถอ่านได้ที่บทความ Dynamics 365 คืออะไร ในปี 2025 โซลูชันที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโต

สรุปท้ายบทความ

เพราะระบบ ERP เปรียบเสมือน “Backbone” หรือกระดูกสันหลังของธุรกิจ ถ้าอยากให้ธุรกิจไปได้ไกล ก็ต้องมีระบบบริหารจัดการที่ดีเป็นพื้นฐาน
แต่การมี Backbone ที่แข็งแรง ไม่ได้หมายความว่าต้องเริ่มทำทุกอย่างพร้อมกัน เคล็ดลับคือการเลือกโฟกัสโมดูลที่ตรงกับ Business Process หลักของเราก่อน เช่น ถ้าเรื่องเงินคือหัวใจ ก็เริ่มที่ Finance หรือถ้าสต๊อกคือปัญหา ก็เจาะไปที่ Inventory Management

การเลือกโมดูลที่ “ใช่” มาวางเป็นรากฐาน Digital Core ตั้งแต่แรก จะช่วยให้ระบบเสถียรและทีมงานทำงานง่ายขึ้น เมื่อโครงสร้างหลักแน่นแล้ว เราก็พร้อมขยายไปโมดูลอื่น ๆ เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง

ต้องการคำปรึกษา?

ทีม Quick Transformation พร้อมช่วยวิเคราะห์กระบวนการทำงานขององค์กร ออกแบบชุดโมดูล ERP ที่ตอบโจทย์งานจริง และแนะนำโซลูชันที่เหมาะสมทั้ง Microsoft Dynamics 365 Finance & Operations และ Business Central ครอบคลุมตั้งแต่ Finance, Inventory, WMS, Production, HR ไปจนถึง Analytics ปรึกษา Quick Transformation เพื่อวางระบบ ERP ที่คุ้มค่า ขยายได้ และพร้อมรองรับการเติบโตของธุรกิจคุณ